รุกขะ เทวะ

รุกขะ เทวะ

นานๆมีโอกาสกลับไปชื่นชมความงามในที่ห่างไกลจากงานประจำ คาดอย่างเต็มเปี่ยม หวังจะได้สัมผัสไออุ่นสลับลมเย็น สดชื่น สบายกาย แต่ด้วยภาวะดินฟ้าอากาศในวันเวลานั้นไม่เอื้ออำนวยนัก เมฆฝนตั้งเค้าดำทะมึน ความมืดสลัวเริ่มกล้ำกลาย สายฝนปรายโปรยตกเปาะแปะสลับพรำๆเป็นระยะๆ น้ำเริ่มไหลเจอนอง เฉอะแฉะ ชุ่มไปทั่ว

ท่ามกลางบรรยากาศขมุกขมัวชวนหลับใหล ความน่าพิศวงของธรรมชาติอันพิเศษสุดอีกมิติหนึ่งกลับถูกปลุกปรากฎขึ้น ไม่ใช่ความงามจากสีเขียวอาบแสงทองอันสดใส สายลมพัดเอื่อยๆดั่งภาพฝันของหลายๆคน แต่เป็นความรู้สึกลึกดำดิ่งกว่าในความงามอันคุ้นเคย เคล้าด้วยอารมณ์ลี้ลับ หวาดหวั่นในความยิ่งใหญ่ แฝงความวิตก สะดุ้งกลัวในยามมืดมิด ขลาดเขลาในสิ่งไม่รู้ สายตามิอาจมองเห็น แต่คล้ายจับต้องได้

ยิ่งเวลาเนิ่นนานผ่านไป จิตเริ่มรับรู้ซึมซับมากกว่าดวงตามอง สัมผัสถึงความจริงอันสลับซับซ้อนใต้สำนึกคิด ไม่เพียงสะท้านชุ่มชื่น มวลอากาศบริสุทธิ์จูงจมูกสูดหายใจอย่างเต็มแรงเต็มปอด ปลุกพลัง เติมเต็มเสริมให้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง พลังธรรมชาติอันบริสุทธิ์แผ่ซ่านถึงก้นบึ้งแห่งจิต กระตุ้นเร้าชวนระลึกนึกถึงอีกหลายร้อยหลายพันหลายหมื่นชีวิตอันเรียงรายล้อมรอบเรา
ทั้งมองเห็นด้วยสัมผัสประสาท แลอิงสัมผัสด้วยจิตส่วนลึก รับรู้ถึงสรรพสิ่งอันเปรียบดุจแหล่งก่อกำเนิด ให้ความอิ่มท้องและฉ่ำจิต มอบเสียงก้องทั้งเงียบเหงาในผองป่า ละเลยและหวงแหน สลับกังขาในสิ่งลี้ลับ แฝงหวาดหวั่นในเงามืด อีกสร้างความหวังยามต้องแสงเรืองรอง หลากหลายสิ่งล้วนผสมผสานรัดร้อยหยั่งรากลึก สร้างต้นทางหล่อเลี้ยงใจให้หลงใหล ก่อความเชื่อ ขนบประเพณีแรงศรัทธา แลน้อมเคารพนับถือในความยิ่งใหญ่แห่งธรรมชาติของชนทุกชั้นทุกชาติหลากภาษามานานแสนนาน

ปฎิสัมพันธ์อันแนบแน่นแต่ครั้งโบราณกาล ในวันนี้อาจเสื่อม ถดถอยไปตามกาลเวลา ฉีกกระชากขาดวิ่นด้วยกระแสแรงพลวัตร สะเทือนโซ่แห่งเคารพคาราวะ ครั้นศรัทธาเริ่มหลุดลอยแยกสลาย คติความเชื่อแฝงอนุรักษ์แต่ครั้งโบราณอันคอยเกื้อหนุนถูกสั่นคลอน ความสุข สดชื่น ชุ่มฉ่ำ ปิติทั้งกายและใจฉบับดั้งเดิมที่เคยมีนั้น ย่อมยากยิ่งจะคงไว้เฉกเช่นกัน คติความเชื่อปัจจุบันใดเล่าที่จะมอบสมดุลกลับมาดีดังเดิม...